โทรศัพท์แอนดรอยด์ ราคาถูกและดี สเปคแรง อัปเดทปี 2024
โทรศัพท์ที่ครองพื้นที่ตลาดอย่างมากในปัจจุบันนั่นก็คือ “โทรศัพท์แอนดรอยด์” นั่นเอง แต่หลายคนอาจยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อมูลของโทรศัพท์แอนดรอยด์น่าใช้รุ่นต่าง ๆ ว่าดีอย่างไร สเปคน่าสนใจขนาดไหน หรือมีดีไซน์ที่ตอบโจทย์การใช้งานหรือไม่ ดังนั้น Alottech จึงจะขอนำเสนอโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ดีที่สุดและเหมาะสำหรับคุณ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
-21%
-14%
-32%
-52%
-4%
-6%
-18%
-16%
-17%
โทรศัพท์ Android (แอนดรอยด์)
ก่อนจะไปลงรายละเอียดเกี่ยวกับรุ่นต่าง ๆ เราควรทำความรู้จักกับโทรศัพท์แอนดรอยด์กันก่อน ซึ่งโทรศัพท์แอนดรอยด์ คือ โทรศัพท์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ซึ่งเป็นระบบแบบ Open Source ทำให้ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันหรือใช้งานโทรศัพท์ได้อย่างอิสระ
โทรศัพท์แอนดรอยด์ดียังไง?
โทรศัพท์แอนดรอยด์นั้นมีความหลากหลาย ทั้งในแง่ของราคา ดีไซน์ หรือสเปค ทำให้คุณสามารถเลือกโทรศัพท์ที่เหมาะกับตัวเองได้มากยิ่งขึ้น ทั้งโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3,000 ไปจนถึงหลักหมื่น หรือโทรศัพท์แบตทน สเปคเร็วแรง ใช้งานได้ไม่มีสะดุด อีกทั้งยังมีดีไซน์ที่มากมาย ทั้งเรียบหรู มินิมอล หรือสดใส
นอกจากนี้ การใช้โทรศัพท์แอนดรอยด์มีประโยชน์มากมาย เช่น สามารถปรับแต่งอย่างอิสระได้ตามความต้องการของผู้ใช้ อีกทั้งยังเข้าถึงแอปพลิเคชันจาก Google Play Store ที่มีหลากหลายอีกด้วย พร้อมทั้งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ยังได้รับการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถใช้งานฟีเจอร์ใหม่ ๆ และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
10 โทรศัพท์แอนดรอยด์ ราคาถูก มีประกันสินค้า
หากใครที่สนใจโทรศัพท์แอนดรอยด์ถูกและดี แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกรุ่นไหนดี เราจึงได้รวบรวมมือถือน่าใช้มือถือน่าใช้มาให้คุณแล้วทั้งหมด 10 รุ่นด้วยกัน จะมีโทรศัพท์มือถือระบบแอนดรอยด์รุ่นไหนบ้าง ไปดูกันได้เลย!
1. Realme 9i 5G 6/128
โทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาถูกที่มาพร้อมสเปคเกินคาด Realme 9i เป็นโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่แนะนำสำหรับผู้ที่มองหาความคุ้มค่า โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.6 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek Dimensity 810 5G
- RAM: 6GB
- ROM: 128GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP (หลัก) + 8MP (มุมกว้าง) + 2MP (ความลึก) และกล้องหน้า 16MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 พร้อม Realme UI 3.0
2. Realme C33 4/64
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 4000 รุ่น Realme C33 4/64 มาพร้อมกับสเปคที่เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ใครที่มองหาโทรศัพท์แอนดรอยด์ราคาย่อมเยาต้องรุ่นนี้เลย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.5 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: Unisoc T612
- RAM: 4GB
- ROM: 64GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP (หลัก) + 2MP (ความลึก) และกล้องหน้า 5MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 พร้อม Realme UI R Edition
3. Oppo A57 4/64
Oppo A57 4/64 โทรศัพท์แอนดรอย์จากแบรนด์ชั้นนำ มาพร้อมแบตเตอรี่อึดทน สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตหมดให้รำคาญใจ โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.56 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek MT6765 Helio G35
- RAM: 4GB
- ROM: 64GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 13MP (หลัก) + 2MP (ความลึก) และกล้องหน้า 8MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 พร้อม ColorOS 12.1
4. Realme 10T 5G 4/128
ใครที่กำลังมองหาโทรศัพท์ไม่เกิน 5000 อีกหนึ่งโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่น่าสนใจ Realme 10T 5G 4/128 ถือว่าเหมาะกับผู้ที่ต้องการความคุ้มราคาพร้อมสเปคที่เหมาะสม โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.6 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek Dimensity 810 5G
- RAM: 4GB
- ROM: 128GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP (หลัก) + 2MP (ความลึก) และกล้องหน้า 8MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 พร้อม Realme UI 3.0
5. Xiaomi Redmi Note11Pro 4G 8/128
โทรศัพท์ถ่ายรูปสวย พร้อมระบบปฏิบัติการณ์แอนดรอยด์ Xiaomi Redmi Note11Pro 4G 8/128 ให้คุณใช้งานได้เหนือกว่า โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.67 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek Helio G96
- RAM: 8GB
- ROM: 128GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 108MP (หลัก) + 8MP (มุมกว้าง) + 2MP (มาโคร) + 2MP (ความลึก) และกล้องหน้า 16MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 11 พร้อม MIUI 13
6. Vivo V23 5G 12/256
Vivo V23 5G 12/256 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะกับผู้ที่มองหาโทรศัพท์เล่นเกมส์ สเปคเร็วแรง เล่นได้ไม่มีสะดุด โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.44 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek Dimensity 920 5G
- RAM: 12GB
- ROM: 256GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 4200mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 64MP (หลัก) + 8MP (มุมกว้าง) + 2MP (มาโคร) และกล้องหน้า 50MP + 8MP (มุมกว้าง)
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 พร้อม Funtouch OS 12
7. Samsung Galaxy A53 5G 8/128
Samsung Galaxy A53 5G 8/128 เป็นโทรศัพท์จากซัมซุงที่ใช้แอนดรอยด์ 12 เป็นระบบเบื้องต้น ให้ความคุ้มค่าด้วยสเปคเกินราคา โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.5 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: Exynos 1280
- RAM: 8GB
- ROM: 128GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 64MP (หลัก) + 12MP (มุมกว้าง) + 5MP (มาโคร) + 5MP (เซนเซอร์ความลึก) และกล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 12 พร้อม One UI 4.1
8. Nothing Phone 2A
อีกหนึ่งแบรนด์โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่น่าสนใจ Nothing Phone 2A เป็นรุ่นที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่เต็มตา ให้คุณรับชมความบันเทิงได้เต็มที่ยิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.7 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek Dimensity 7200 Pro 4nm Gen2 Octa Core
- RAM: 8GB/12GB
- ROM: 128GB/256GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP (หลัก) + 50MP (มุมกว้าง) และกล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 14 ครอบทับด้วย Nothing OS 2.5
9. OPPO Reno11 5G 12/256
โทรศัพท์แอนดรอยด์ที่แรงที่สุดOPPO Reno11 5G 12/256 ใครที่กำลังมองหามีถือระดับโปร ถ่ายรูปก็สวย เล่นเกมก็ดี ห้ามพลาดกับรุ่นนี้เลย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.7 นิ้ว
- หน่วยประมวลผล: MediaTek Dimensity 7050
- RAM: 12GB
- ROM: 256GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 5000mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP (หลัก) + 32MP (เทเลโฟโต้) + 8MP (มุมกว้าง) และกล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 พร้อม ColorOS 13
10. OPPO Find N2 Flip
โทรศัพท์แอนดรอยด์พับได้ OPPO Find N2 Flip มาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ไม่ซ้ำใคร พร้อมฟังก์ชันน่าสนใจอีกมากมาย โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
- ขนาดตัวเครื่อง: 6.8 นิ้ว (หน้าจอหลัก), 3.26 นิ้ว (หน้าจอรองด้านนอก)
- หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1
- RAM: 8GB/12GB
- ROM: 256GB/512GB
- แบตเตอรี่: ความจุ 4350mAh
- กล้อง: กล้องหลัง 50MP (หลัก) + 8MP (มุมกว้าง) + 2MP (มาโคร), กล้องหน้า 32MP
- ระบบปฏิบัติการ: Android 13 พร้อม ColorOS 13
โทรศัพท์แอนดรอยด์ต่างจากโทรศัพท์ระบบ iOS อย่างไร?
โทรศัพท์แอนดรอยด์และโทรศัพท์ระบบ iOS มีความแตกต่างหลักที่สำคัญในด้านระบบปฏิบัติการและการจัดการแอปพลิเคชัน โดยโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่พัฒนาโดย Google มีความยืดหยุ่นในการปรับแต่งระบบและเข้าถึงแอปจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Google Play Store และแหล่งภายนอก ขณะที่ iOS ของ Apple มีการควบคุมที่เข้มงวดกว่า โดยการปรับแต่งจะถูกจำกัด และแอปพลิเคชันสามารถดาวน์โหลดได้เฉพาะจาก App Store เท่านั้น
นอกจากนี้ iOS มักจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่สอดคล้องกันในทุกอุปกรณ์ของ Apple ขณะที่แอนดรอยด์มีความหลากหลายและเปิดกว้างต่อการปรับแต่งที่ผู้ใช้สามารถทำได้ตามต้องการมากกว่า
เคล็ดลับการเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ให้เหมาะกับตนเอง
การเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ให้เหมาะกับตัวเองนั้น เราสามารถพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ ดังต่อไปนี้
- งบประมาณ: กำหนดงบประมาณที่คุณพร้อมจ่ายและเลือกโทรศัพท์ที่ตรงกับงบประมาณนั้น โดยเลือกจากรุ่นที่มีฟีเจอร์ที่จำเป็นและความคุ้มค่าที่ดีที่สุด
- การใช้งานหลัก: คิดถึงการใช้งานหลักของคุณ เช่น การถ่ายภาพ, การเล่นเกม, การใช้งานทั่วไป หรือการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกโทรศัพท์ที่มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ เช่น กล้องที่ดี หน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพ หรือแบตเตอรี่ที่ทนทาน
- ขนาดและดีไซน์: เลือกขนาดหน้าจอและดีไซน์ที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ เช่น หน้าจอใหญ่สำหรับการดูหนังหรือเล่นเกม และดีไซน์ที่คุณรู้สึกสะดวกในการถือใช้งาน
- คุณภาพกล้อง: หากการถ่ายภาพเป็นสิ่งสำคัญ ให้เลือกโทรศัพท์ที่มีกล้องที่มีความละเอียดสูงและฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ดี เช่น โหมดกลางคืน เลนส์มุมกว้าง หรือกล้องหน้าเพื่อการเซลฟี่
- RAM: สำหรับการใช้งานที่ราบรื่นและการเล่นเกมหรือการทำงานที่หนักหน่วง เลือกโทรศัพท์ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพและ RAM ที่เพียงพอ
- แบตเตอรี่: ตรวจสอบความจุของแบตเตอรี่และฟีเจอร์การชาร์จเร็วเพื่อให้แน่ใจว่าโทรศัพท์สามารถใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
- การรับประกันและบริการหลังการขาย: ตรวจสอบการรับประกันและบริการหลังการขายของร้านที่เลือกซื้อ เพื่อให้คุณมั่นใจในความช่วยเหลือหากเกิดปัญหาจากการใช้งาน
เลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์กับ Alottech
หากใครที่ยังไม่แน่ใจ้ว่าจะเลือกซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ที่ไหนดีที่ได้ราคาดี พร้อมโปรโมชันมากมาย อย่าลืมมาเลือกชมที่ Alottech เรามีโทรศัพท์แอนดรอยด์หลากหลายรุ่นที่น่าสนใจ ให้คุณได้เลือกซื้อเครื่องที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด อย่ารอช้า เลือกดูที่ https://www.alottechs.com/ กันเลย!